ท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวแรงประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น แม่เหล็กดูดนักท่องเที่ยวจองที่พักบน Airbnb ปี 65 พุ่งเกือบ 240%

ร้านข้าวเหนียว กรุงเทพฯ  : 23 มีนาคม 2566 

Airbnb เผยการเดินทางฟื้นตัวแรงต่อเนื่องหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จำนวนคืนของการจองที่พัก (nights booked) บน Airbnb ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในปี 2565 เทียบกับปี 2563* จากการท่องเที่ยวอินบาวด์
(การท่องเที่ยวขาเข้า) ที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดกรุงเทพฯ ติดอันดับ 5 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของนักเดินทาง Airbnb ทั่วโลก เป็นสัญญาณและประสบการณ์ที่ดี  ผ่านพ้นโควิด นักท่องเที่ยวพร้อมเดินเก็บเกี่ยวความสุข จากการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น คนทำงานจองที่พักนานขึ้น เพราะสามารถทำงานจากมุมไหนของโลกก็ได้ ประเพณีและวัฒนธรรมที่งดงามแต่ละท้องถิ่นของไทยยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

นายอมันพรีท บาจาจ ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฮ่องกง และไต้หวัน ของ Airbnb เปิดเผยว่า

 "แอพพลิเคชั่น Airbnb มีความหลากหลายและมีหลายราคา มีฟีเจอร์ใหม่ออกมา ด้วยการจัดสรรรูปแบบของที่พัก 5o สไตล์ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นบ้านหรืออื่นๆ ประเทศไทยมีที่พักที่หลากหลายมีกิจกรรมมากมาย มีความพิเศษเฉพาะตัว ในช่วงที่ผ่านมาเราเจอปัญหาในการกักตัวจากการเดินทางเข้าประเทศค่อนข้างเยอะแต่ในปี 2023 นักท่องเที่ยวจะเดินทางมากขึ้น โดยในปี 2022 ภาคการท่องเที่ยวมีการปรับตัวฟื้นตัวมากในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรปแต่ในเอเซียกลับยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร แต่ประเทศไทยต่างกันออกไป คือเราสามารถทำยอดเป้าหมายของการท่องเที่ยวได้ โดยมีนักท่องเที่ยวไหลเข้ามาในประเทศ 11.15 ล้านคนเกินเป้าที่วางเอาไว้ และในปี2023 มีการปรับตัวฟื้นตัวดีมากยิ่งขึ้นอีก เพราะว่านักท่องเที่ยวเริ่มมีวิธีการเดินทางออกนอกประเทศที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น  สิ่งที่ต้องทำคือต้องสอดรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยว ปีนี้คาดการณ์ว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวไหลเข้ามา 25-30 ล้านคนซึ่งถือเป็นการฟื้นตัวครั้งใหญ่

เทรนด์การท่องเที่ยวปีนี้มีปัจจัยมีหลายอย่างเนื่องจากเศรษฐกิจโลกเพิ่งฟื้นตัว พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เทรนด์โลกคือผู้บริโภคเริ่มมองหาแนวทางการท่องเที่ยวที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ความหลากหลายในการจ่ายราคาในการจ่ายท่องเที่ยวทุกครั้งไม่ใช่เฉพาะที่พักเพียงอย่างเดียว รวมถึงงบประมาณในกิจกรรมต่างๆด้วย การเดินทางไปหาคนที่เรารักเช่นครอบครัว ชีวิตการทำงานกับการท่องเที่ยวเส้นแบ่งตรงนี้จะเริ่มเลือนหายไปคนสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวและทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วย คนเที่ยวในระยะที่ไกลได้ คนเริ่มท่องเที่ยวเป็นระยะเวลานานมากยิ่งขึ้น มีการเปิดสถานท่องเที่ยวใหม่เกิด ปีนี้ประเทศไทยก็จะมีหมุดหมายท่องเที่ยวใหม่ที่จะเปิดมุมมองใหม่

เสน่ห์ของคนพื้นเมืองที่ทำให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวของไทยให้ดีขึ้น ประเทศไทยเป็นหมุดหมายอันดับ 5 นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจในการเดินทางมากยิ่งขึ้น จำนวนการจองห้องเติบโตขึ้น 240% เมื่อเทียบกับปีทีผ่านมา สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็ยังคงเป็น กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ เกาะสมุย มุมมองนักท่องเที่ยวไทยไปท่องเที่ยว เกากลีใต้ อเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศษ และญี่ปุ่น เมืองที่คนไทยอยากไปท่องเที่ยว 5 อันดับ กรุงโซล ลอนดอน ปารีส  นิวยอร์ค นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย 3 อันดับแรกคือสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอร์มัน"

สำหรับเทรนด์การท่องเที่ยวเมืองไทย นางสาวดวงขวัญ สินสัตยกูล ผู้จัดการประจำตลาดเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และใต้หวัน Airbnb เปิดเผยว่า

"เทรนด์การท่องเที่ยวเมืองไทย สงกรานต์เป็นเทศกาลที่มีเสน่ห์และมีความสำคัญมากๆ เมืองไทยเป็นสถานที่ได้รับความนิยมทั่วโลก การเดินทางระหว่างประเทศได้กลับมาเกือบจะเต็มรูปแบบแล้ว. ต้องบอกว่าสงกรานต์ปีนี้สำหรับคนไทยเป็นสงกรานต์ที่มีความหมายและน่าสนใจมาก เพราะว่าสองปีที่ผ่านมาการเฉลิมฉลองสงกรานต์ การเดินทางท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศถูกจำกัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในปีนี้เราพบว่าการค้นหาที่พัก Airbnb  พบว่าในช่วงสงกรานต์เติบโตจากปีที่ผ่านมา 340% จังหวัดที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศสนใจเข้าพัก มากที่สุด กรุงเทพ พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต เพราะอยากจะมาสัมผัสประเพณี ขนบธรรมเนียมการเฉลิมฉลองแบบไทย"

นักเดินทางมองหาการเดินทางที่ผ่อนคลาย Airbnb ได้ปล่อยเคมเปญ  Sabai Sabbatical เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ เป็นเคมเปญโปรโมตการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ไทยมีสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาก และทางททท.ได้มีการรณรงค์และโปรโมตการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมาอย่างต่อเนื่อง Sabai Sabbatical ได้เชิญชวนร่วมฉลองสงกรานต์ ด้วยการเฟ้นหาผู้โชคดี รับสิทธิ์การท่องเที่ยว 9 วันในสถานที่มีเอกลักษณ์ อาทิ ภูกรุงเทพ ฯ เชียงใหม่และภูเก็ต พร้อมตั๋วเครื่องบินภายในประเทศมูลค่าสูงสุด 1600 ดอลล่าร์สหรัฐ ด้วยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ  

·