อว.บีโอไอ เดลต้า ผนึกกำลังพัฒนาระบบอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูง สำหรับชุดปลอดเชื้อให้บุคลากรทางการแพทย์ (PAPR)

Last updated: 13 เม.ย 2563  |  458 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อว.บีโอไอ เดลต้า ผนึกกำลังพัฒนาระบบอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูง สำหรับชุดปลอดเชื้อให้บุคลากรทางการแพทย์ (PAPR)

   เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มร.แจ็คกี้ ชาง (Jackie Chang) ประธานบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และศาสตราจารย์ ดร.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ แถลงความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาชุดอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงวิกฤตโรคโควิด-19

   โดยบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน วช. และเครือข่ายวิชาการได้พัฒนาและสนับสนุนระบบพัดลมปลอดเชื้อคุณภาพสูง (DC Fan) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญของชุดปลอดเชื้อความดันบวกและหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง(Powered Air-Purifying Respirators หรือ PAPR) ที่พัฒนาโดยสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทยร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล

ซึ่งพัดลมจะดูดอากาศจากภายนอกผ่านตัวกรองอากาศ เพื่อเปลี่ยนให้เป็นอากาศที่สะอาดแล้วจ่ายลมให้กับหน้ากากป้องกันเชื้อโรคความดันบวกที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยต้องใช้ ทั้งนี้บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้มอบระบบพัดลมปลอดเชื้อ จำนวน 10,500 เครื่อง ให้กับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อส่งมอบให้กับมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชโดยคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทยเพื่อดำเนินการนำไปประกอบการผลิตชุดปลอดเชื้อและหน้ากากป้องกันเชื้อโรคความดันบวกให้บุคลากรทางการแพทย์ต่อไป


กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้มีนโยบายเตรียมความพร้อมให้กับประเทศ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยความร่วมมือกับหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานในสังกัด มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนโยบายสำคัญคือการสนับสนุนการพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูงให้เพียงพอกับความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์ โดยได้มอบให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นโครงการเร่งด่วนตามความต้องการของประเทศที่ใช้ในการควบคุมป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น การวิจัยและพัฒนาหน้ากากอนามัย N95เพื่อใช้ทางการแพทย์ ชุดป้องกันส่วนบุคคลของบุคลากรการแพทย์ (Personal Protective Equipment หรือ PPE) เช่น หน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะชนิดมีพัดลมพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPR) เสื้อกาวน์ป้องกันการติดเชื้อ (Surgical gown) และชุดป้องกันร่างกาย (Safety cover all) เครื่องช่วยหายใจ (Ventilators/Respirators) ระบบห้องและการปรับอากาศ แรงดันลบ (Negative-pressure Facilities) และโรงพยาบาลสนาม

   

โดย ดร.สุวิทย์ เปิดเผยว่า

    “ระบบพัดลมปลอดเชื้อคุณภาพสูงซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์สำคัญที่ทีมวิจัยและนวัตกรรมของบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พัฒนาโดยร่วมกับบีโอไอที่ได้ให้การสนับสนุนนวัตกรรมนี้
ถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อคนไทย เป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ และสร้างอุปกรณ์ที่ถือเป็นเครื่องมือหลักของบุคลากรทางการแพทย์ ในสถานการณ์เช่นนี้หน้ากากป้องกันเชื้อโรคความดันบวกพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPR) นี้จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19มีความปลอดภัย

    และเกิดความมั่นใจในการดูแลผู้ป่วย ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ นักวิจัยและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ในความพยายามทำวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างเต็มที่ และขอให้ทุกท่านมั่นใจว่ากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะร่วมสนับสนุนและอยู่เคียงข้างทุกท่านในการฝ่าวิกฤตโควิด-19 แล้วเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน"

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้